เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี2532
สุดยอดแห่งเหรียญสายจตุคามรามเทพ
เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี32 สุดยอดแห่งเหรียญสายจตุคามรามเทพ วัตถุมงคลในรูปแบบขององค์พ่อจตุคามรามเทพ ที่ได้มีการสร้างกันมาตั้งแต่ยุคแรก ปี 2530 มาจนถึงปัจจุบัน ปี 2550 ในระยะเวลาร่วม 20 ปีมีมากมาย ถ้านับได้คงจะอยู่ในราวๆ 2-3 พันรุ่นเข้าไปแล้ว.. ในบรรดาวัตถุมงคลทั้งหลาย ก็ได้มีการจัดแบ่งพิมพ์ทรงเป็นหลายรูปแบบ เริ่มตั้งแต่ พิมพ์น้ำตาลแว่น,เหรียญปั๊ม,รูปหล่อ,ผ้ายันต์ ตลอดจนรวมถึงพระบูชา ฯลฯ การซอยแยกดังกล่าวยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงจำนวนวัตถุมงคล ที่นับไม่ถ้วนที่ได้ประดังกันออกมาให้แก่ผู้ศรัทธาได้เลือกเช่าหาบูชา แต่ถ้าจะมองกันในรูปแบบพิมพ์ทรงอย่างกว้างๆ การสร้างก็จะเป็นในรูปลักษณ์ของ พิมพ์องค์พ่อจตุคามรามเทพ ,พิมพ์ปิดตาพังพระกาฬ, และพิมพ์พญาชิงชัย ฯ เสียมากกว่า แต่ในครั้งนี้ผมจะขอกล่าวถึง วัตถุมงคลขององค์พ่อจตุคามรามเทพ ในรูปแบบของพิมพ์ปิดตาพังพระกาฬ ในที่นี้ก็คือ เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ปี 32 ถ้าจะพูดกันไปแล้ว การสร้างพระปิดตาของพระเถราจารย์ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แต่ที่เราเห็นกันชินตา ก็คงจะไม่พ้น รูปแบบของพระปิดตามหาลาภ ที่เป็นลักษณะของพระนั่งขัดสมาธิเพชร ใช้ฝ่ามือประสานกันปิดใบหน้า ซึ่งผู้คนนิยมอาราธนาติดตัว ด้วยนิยมหวังพึ่งบารมีในด้านทางเมตตาหรือ ลาภสักการะบูชา ส่วนทางด้านพระปิดตาอีกประเภท ก็คือ ในลักษณะนั่งขัดสมาธิเพชร ใช้มือประสานกันปิดทวารทั้งเก้า หรือที่เรานิยมเรียกกันว่าพระปิดตามหาอุตม์ ซึ่งมีพุทธคุณทางด้าน คงกะพันชาตรี ตามความชอบของบุคคลที่ต้องทำงานด้านการท้าทาย หรือชอบการเสี่ยงภัย..
ส่วนพระปิดตาพังพระกาฬ หรือที่เรียกกันว่าพญาพังพระกาฬ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลในสายจตุคามรามเทพนั้น จะมีความหมายรวมถึงความแตกต่างจากพระปิดตาที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพราะว่าในความหมายของพระปิดตาทั่วไปนั้น ตามความเชื่อของทางพุทธศาสนาคือ ภาคนิรมาณกายของพระสังกัจจายน์ ในลักษณะเข้าฌาณสมาบัติ รูปลักษณ์จึงกลายเป็นคุณวิเศษ ทางโชคลาภ สักการะ รวมถึงป้องกันภัยอันตรายใดๆ มิให้กล้ำกรายผู้ที่อาราธนาพกพาติดตัว จึงแตกต่างจากพระปิดตาพังพระกาฬสายจตุคามรามเทพ
พระปิดตาพังพระกาฬ หรือ พญาพังพระกาฬ
นั้นมีความเชื่อว่าประวัติพระปิดตา เป็นภาคอวตารของพระเทวราชโพธิสัตว์จตุคามรามเทพ อีกภาคหนึ่ง ในทางความหมาย จึงมีความเชื่อว่า พญาพังพระกาฬ เป็นวัตถุมงคลที่ใช้ในทางแก้ไขอุปสรรค พังทะลายความมืดมนของชีวิต นำบุคคลที่อยู่ในห้วงทุกข์จากที่มืด ออกสู่ที่สว่าง..ซึ่งก็มีเรื่องเล่า เพื่อเสริมบารมีในองค์ท่านแตกต่างกันไป..บ้างก็ว่าเป็นภาคหนึ่งขององค์จตุ คามรามเทพ.. บ้างก็ว่าเป็นขุนศึกที่เข้ามาร่วมรบสู้ เพื่อกอบกู้อาณาจักรศรีวิชัยเอาไว้..สุดแล้วแต่ความเชื่อ.. แต่ที่แน่ๆอานุภาพของพระปิดตาพังพระกาฬ ได้แสดงให้ประจักษ์แก่ผู้ที่เคารพศรัทธา ช่วยแก้ไขวิกฤตของชีวิต หรือผ่านอุปสรรคต่างๆที่ขวางหน้ามานักต่อนักแล้ว ถ้าในเรื่องที่ขอนั้นไม่เกินบุญเกินกรรม และอยู่ในศีลในธรรม ก็มักอยู่ในอำนาจของการดลบันดาลได้เสมอ เท่าที่ทราบจากการบันทึกเรื่องราวของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งศาลหลักเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า เมื่อครั้งที่ได้มีการประกอบพิธี เขียนผ้ายันต์ขึ้นในศาลหลักเมือง เมื่อปี พ.ศ.2532 ได้มีการประทับเข้าทรงองค์พ่อจตุคามรามเทพ ร่างทรงคือ คุณอะผ่อง สกุลอมร (โกผ่อง) องค์พ่อจตุคามรามเทพได้มีบัญชา อยากให้ท่าน พ.ต.อ.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล (ยศในขณะนั้น) สร้างพระปิดตาพังพระกาฬ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรศรีวิชัย มาตั้งแต่สมัยอดีต ประกอบกับปีนั้นเป็นปีมะเส็ง เป็นปีนักษัตรกำเนิดของพญาพังพระกาฬพอดีแรก
ในขณะนั้นท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ ฯ ได้มีการสอบถามถึงรูปแบบของพระปิดตาพังพระกาฬกับร่างทรง ซึ่งองค์พ่อจตุคามรามเทพในร่างทรง ได้มีการกล่าวตอบมาว่า เดี๋ยวจะมีคนนำมาให้เอง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีเรื่องแปลกมหัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อท่านกำจร สถิรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้น ได้เดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากมีญาติท่านคนหนึ่งเสียชีวิตที่ปากพนัง ประจวบกับมีชาวประมงมาเดินเร่ขายพระ ซึ่งท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นพระอะไร คงเป็นเพราะความศรัทธา หรือปาฏิหาริย์ก็ไม่ทราบ ท่านก็ได้ขอเช่าบูชาไว้ 2 องค์ เป็นพระต่างชนิดกันในราคา 500 บาท ตกองค์ละ 250 บาท ก่อนการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ท่านได้แวะเยี่ยมท่าน พ.ต.อ.สรรเพชญ ฯ และได้มอบพระดังกล่าวให้ท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ ฯ 1 องค์ เป็นลักษณะของพระปิดตาแบบลอยองค์ในท่านั่งขัดสมาธิเพชร ยกฝ่ามือทั้ง 2 ปิดใบหน้า สวมมงกุฎเป็นรูปดอกบัวที่กำลังจะบาน 2 ชั้น ข้างบนสุดเป็นรูปดอกบัวตูมมีกลีบ 2 กลีบ มียันต์ก้นหอยตรงสะดือ สวมกำไรทั้งข้อมือ ข้อเท้า ด้านหลังเป็นรูปนักษัตร ปีมะเส็ง เป็นลักษณะของประติมากรรมเก่าแก่ ฝีมือช่างหลวง หล่อด้วยโลหะพิเศษที่เรียกว่า เงินยวง มีขนาดความสูงประมาณ 1 นิ้วครึ่ง หน้าตักกว้างประมาณ 1 นิ้ว มีอายุความเก่าหลายร้อยปี..เมื่อท่านพ.ต.อ.สรรเพชญ ได้พระต้นแบบมาดังนั้น ก็ได้ให้ช่างได้มีการดัดแปลงรูปแบบ เพราะเจตนาขององค์พ่อ ต้องการให้สร้างเป็นเหรียญ มีขนาดเท่ากับเหรียญบาทในสมัยนั้น โดยปรับเปลี่ยนนักษัตร ปีมะเส็งที่อยู่ด้านหลัง นำมาไว้ด้านข้างทั้งซ้ายขวาขององค์พระเพิ่มอักขระพระคาถา นะ มะ พะ ทะ ,นะโม พุท ธายะ , อุณาโลม , รวมถึงตัวอักขระที่องค์พ่อจตุคามรามเทพ ท่านทรงกำหนด