พระปิดตาหลวงพ่อทับ หล่อโบราณ ยันต์น่อง วัดทอง กรุงเทพฯ

ระปิดตาหลวงพ่อทับ หล่อโบราณ ยันต์น่อง วัดทอง กรุงเทพฯ

พระปิดตา หลวงพ่อทับ วัดทอง ยันต์น่อง กรุงเทพฯ

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

ยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรมาเนิ่นนานสําหรับ พระปิดตาหลวงปู่ทับ วัดทอง
เป็นอันดับหนึ่งในชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ ทั้งยังมีราคาแพงและได้รับการยกย่องว่า มีความสวยงามกว่าพระปิดตาองค์อื่นๆ ทุกองค์

วัดสุวรรณาราม หรือ วัดทอง บางกอกน้อย กทม. เป็นวัดโบราณที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาในสมัยรัตนโกสินทร์ นับเป็นวัดสำคัญและมีความโดดเด่นโดยเฉพาะ ‘งานจิตรกรรมฝาผนัง’ ในพระอุโบสถ อันเป็นผลงานของจิตรกรเอกในสมัยรัชกาลที่ 3 นอกจากนี้ยังเป็นที่กล่าวขานในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องถึง “พระปิดตามหาอุตม์” ของ พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี หรือ หลวงปู่ทับ อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่ 9 ที่เป็นที่เลื่องลือทั้งด้านพุทธคุณเป็นเลิศและพุทธศิลปะอันงดงามจากจินตนาการปั้น ยากที่จะหาพระปิดตาองค์ใดในยุครัตนโกสินทร์เทียบได้ จนได้รับการยกย่องในเป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคี “พระปิดตายอดขุนพล” หรือ “พระปิดตาเนื้อโลหะ” ที่ปัจจุบันมีค่านิยมสูงส่ง และยากที่จะหาไว้ครอบครอง

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

หลวงปู่ทับ อินทโชติ เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2390 ณ บ้านคลองชักพระ บางกอกน้อย เป็นบุตร นายทิมและนางน้อย ปัทมานนท์ อายุได้ 17 ปี บิดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์ของพระปลัดแก้ว ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เพื่อเป็นศิษย์ร่ำเรียนหนังสือไทยและขอม อายุ 18 ปี บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ศึกษาเล่าเรียนในสำนักพระปลัดแก้ว และศึกษาเพิ่มเติมกับ พระอาจารย์พรหมน้อย และพระครูประสิทธิ์สุตคุณ ที่วัดอัมรินทร์อีกด้วย และเมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบทที่วัดช่างเหล็ก คลองบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี โดยมี พระอธิการม่วง วัดตลิ่งชัน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดแก้ว วัดทอง และ พระอาจารย์พึ่ง วัดรวก เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า “อินทโชติ” แล้วกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดทอง หากแต่ได้ร่ำเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาพุทธาคม ไสยศาสตร์จากพระอุปัชฌาย์มิได้ขาดจนกระทั่งสำเร็จ ท่านยังใฝ่ศึกษาหาความรู้ เมื่อทราบว่าอาจารย์รูปใดที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะใกล้ไกลท่านก็ดั้นด้นไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ จนสำเร็จสมดังตั้งใจ หลวงปู่ทับมรณภาพเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2456 สิริอายุ 66 ปี พรรษา 45

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

หลวงปู่ทับเริ่มสร้าง “พระปิดตามหาอุตม์” เมื่อปี พ.ศ.2442-2453 ซึ่งมีทั้ง เนื้อสำริดเงิน, เนื้อชินตะกั่ว, เนื้อเมฆพัตร, เนื้อสำริดแบบขันลงหิน, เนื้อผงคลุกรัก, เนื้อผงใบลาน และเนื้อแร่บางไผ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเนื้อพิเศษที่พบเห็นได้น้อยหายาก ด้วยท่านได้เนื้อแร่บางไผ่มาจากหลวงปู่จัน วัดโมลี ต้นฉบับพระปิดตาแร่บางไผ่ แห่งนนทบุรี เนื้อที่มีค่านิยมสูง คือ เนื้อสำริดเงิน ผิวนอกขององค์พระมีวรรณะแดงปนทองคล้ายสีนาค ถ้าใช้แว่นขยายส่องดูจะเห็นเป็นเกล็ดสีทองแพรวพราวทั้งองค์ ส่วนตามซอกที่เราสัมผัสไม่ถึงก็จะมีประกายทองผิวปรอทจับอยู่ประปราย ส่วนด้านที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ จะปรากฏผิวคราบดำอมเทาเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่ง แลดูสวยงามลึกซึ้ง ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

พระปิดตามหาอุตม์ของหลวงปู่ทับ ส่วนมากจะเป็นแบบลอยองค์ นั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ที่ล้วงปิดทวาร จะล้วงลงทางด้านในไม่ผ่านพระชงฆ์ (หน้าแข้ง) จึงทำให้เห็นลักษณะการขัดสมาธิเพชรได้เด่นชัด ด้านข้างไม่ปรากฏรอยตะเข็บ และแม้จะเป็นพระพิมพ์เดียวกันก็ตาม อย่างเช่น พิมพ์เศียรโตยันต์ยุ่ง พิมพ์เศียรบายศรี พิมพ์ยันต์ย่อง พิมพ์ตุ๊กตา ซึ่งต่างก็มีพุทธลักษณะเหมือนกันทุกองค์ แต่จะไม่เหมือนกันเลยทั้งรูปองค์และลวดลายของอักขระยันต์ จะหาผู้อื่นใดมาลอกเลียนสร้างให้เหมือนได้ยาก อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่จะลอกเลียนแบบให้เหมือนได้ยาก การกำหนดเลขยันต์ที่จะบรรจุลงบนพระ ท่านก็จะเลือกอักขระที่เหมาะสมมีความหมาย มีอำนาจแห่งพุทธาคม บรรจุลงตามส่วนต่างๆ ขององค์พระ เว้นช่องไฟได้เหมาะเจาะสวยงาม พระปิดตามหาอุตม์ที่ท่านสร้างนั้นมีหลายพิมพ์ แบ่งออกได้เป็น 4 พิมพ์ใหญ่ๆ คือ พิมพ์นั่งบัว, พิมพ์บายศรี, พิมพ์ตุ๊กตา และ พิมพ์ยันต์ยุ่ง โดยยังแยกออกเป็นพิมพ์ย่อยและมีหลายขนาด แต่ก็ ซึ่งล้วนได้รับความนิยมทั้งสิ้น แต่ที่ได้รับการบรรจุในเบญจภาคีพระปิดตา คือ พิมพ์ยันต์ยุ่งเศียรบาตร และพิมพ์ยันต์น่อง

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

“พิมพ์ยันต์ยุ่ง” องค์พระประทับนั่ง ขัดสมาธิเพชร บางองค์มีพระกร 3 คู่ บางองค์มีถึง 4 คู่ โดยคู่แรกยกขึ้นปิดพระพักตร์ คู่ที่สองยกมือขึ้นปิดพระกรรณ คู่ที่สามล้วงลงปิดทวารหนักและทวารเบา คู่ที่สี่ปิดพระนาภี (สะดือ) องค์พระมีทั้งลักษณะต้อ บางองค์เข่ากว้าง บางองค์เข่าแคบ ซึ่งแยกออกได้เป็น ยันต์ยุ่งเศียรบาตร, ยันต์ยุ่งต้อ เข่ากว้าง, ยันต์ยุ่งชะลูด เข่าแคบ และ พิมพ์ตุ๊กตา และพระปิดตาพิมพ์ยันต์ยุ่งองค์ใดมีอักขระขอมปรากฏตรงพระเพลาและพระชงฆ์ ก็จะเรียกว่า “พิมพ์ยันต์น่อง” ด้านหลังองค์พระตรงกลางเป็นยันต์เฑาะว์อุณาโลมหางสะบัดขึ้นด้านบนเศียร หรืออาจเป็นตัวอักขระขอมตัวอื่น ด้านข้างตัวเฑาะว์อุณาโลมเป็นตัวอุณาโลมขนาบข้าง 2 ตัว ด้านล่างเป็นอักขระว่า “นะ มะ พะ ทะ” ใต้ฐานองค์พระเป็นแอ่งลึก พุทธคุณ เด่นทาง เมตตามหานิยม และมหาอุตม์ การพิจารณา พระปิดตาหลวงปู่ทับที่ผ่านการใช้มาแล้ว เนื้อพระจะกลับดำทุกองค์ และข้อสังเกตประการสำคัญ คือ พระทุกองค์จะต้องไม่มีรอยตะเข็บ และเส้นยันต์จะค่อนข้างกลมเหมือนเส้นขนมจีน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถจดจำได้ว่าเป็นของท่าน ทุกพิมพ์ล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องสนนราคาก็แพงลิบลิ่ว

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบางกอกน้อยกรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรีนั้น เดิมเป็นวัดเก่าแก่มาแต่ครั้งสมัยอยุธยาแล้วและก็วัดทองนี้แหล่ะคือที่มาของพระปิดตาอันเลื่องชื่อ ที่หลวงพ่อทับได้เป็นผู้ให้กำเนิดไว้
พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี หรือนามที่ชาวบ้านรู้จักกันดีคือหลวงพ่อทับ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดทององค์ที่ 9 นับเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านไสยเวทยิ่งนัก ท่านได้เริ่มสร้างพระปิดตาเมื่อพ.ศ. 2442 จนถึงพ.ศ. 2453 ครับ

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

พระปิดตาของหลวงพ่อทับ ท่านสร้างไว้มีทั้งเนื้อโลหะแก่เงินผิวกลับดำเนื้อสัมฤทธิ์เนื้อแร่แบบ พระแร่บางไผ่เนื้อเมฆพัด เนื้อผงใบลานและเนื้อตะกั่ว พระปิดตาของหลวงพ่อทับใช้วิธีการสร้างโดยใช้แม่พิมพ์องค์ต่อองค์เทพิมพ์ครั้งแรกแม่พิมพ์สลายตัวพังทันที ด้วยเหตุนี้เองพระปิดตาวัดทองจึงได้รับการยกย่องจากชาวพระเครื่องโดยทั่วไปว่าพระปิดตาวัดทองมิใช่แต่จะเยี่ยมในด้านพุทธคุณเท่านั้น แม้แต่องค์ภควันบดีที่หลวงพ่อให้จินตนาการปั้นขึ้นมานั้นยัง เลิศอลังการและอิ่มในศิลป

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ
พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

ดังนั้นจึงได้รับการยกย่องให้เป็นพระยอดขุนพลอันดับ 1 ของชุดเบญจภาคีพระปิดตาครับ สำหรับพุทธคุณท่านจะให้ความรุ่งโรจน์แก่ผู้ใช้ได้อย่างเอนกประสงค์โดยเฉพาะด้านอยู่ยงคงกระพันรวมทั้งด้านมหาอุตม์หยุดกระสุนปืนได้ก็เคยมีผู้ได้ประสบการณ์กันมาแล้วอย่างปฏิหารย์ครับผมขอ ให้บารมีหลวงปู่จงคุ้มครองทุกท่าน

ปิดตาหลวงพ่อทับองค์นี้มีรูปแบบ “พิมพ์ยันต์ยุ่ง” องค์พระนั่งขัดสมาธิเพชร มีพระกร 4 คู่ (คู่แรกยกขึ้นปิดพระพักตร์ คู่ที่สองยกมือขึ้นปิดพระกรรณ คู่ที่สามล้วงลงปิดทวาร คู่ที่สี่ปิดสะดือ) องค์นี้เป็นเนื้อสำริดเงินที่นิยมสุด และแพงสุดโดยผิวลักษณะตามซอกของเส้นยันต์ที่ไม่ถูกสัมผัสจะมีประกายเงินจับผิวอยู่ประปราย ส่วนด้านที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ จะปรากฏผิวคราบดำอมเทาเคลือบอยู่อีกชั้นหนึ่ง การเดินเส้นยันต์นั้นจะมีลักษณะที่เรียกว่าเส้นขนมจีนคือมีความโค้งในซอกที่ติดกับตัวองค์พระไม่ใช่ตัดตรงลงไป ซึ่งเกิดจากการปั้นเส้นเทียนมาเดินยันต์บนองค์พระแล้วกดให้ติดกับตัวองค์พระ เมื่อการวางยันต์เรียบร้อยจะเอาดินขี้วัวไล้ทั่วองค์พระแล้วพอกด้วยดินหุ่น เชื่อมต่อช่อชนวนเข้าทางด้านก้นบริเวณใต้หัวเขา เมื่อหล่อออกมาจะทำการตัดและแต่ชนวนนี้ออก เซียนพระรุ่นเก่า บอกว่า “พระปิดตาหลวงพ่อทับศักดิ์สิทธิ์นัก ใครมีติดตัวไว้ ไม่เพียงท่านจะคุ้มภัย ยังจะเป็นที่ชื่นชมยินดี ติดต่อผู้คนในสังคม มีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีวันตกต่ำเลย”

พระปิดตา หลวงพ่อทับ อินทโชติ ยันต์น่อง วัดทอง บางกองน้อย กรุงเทพฯ

พระปิดตาในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ

พระปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง เป็นพระปิดตาในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะ (เบญจภาคีพระปิดตาเนื้อโลหะได้แก่

  1. พระปิดตา วัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาท
  2. พระปิดตา วัดห้วยจระเข้ หลวงปู่นาค จังหวัดนครปฐม
  3. พระปิดตา วัดโมลี หลวงปู่จันทน์ แร่บางไผ่ จังหวัดนนทบุรี
  4. พระปิดตา วัดทอง หลวงพ่อทับ ธนบุรี
  5. พระปิดตา วัดหนัง หลวงปู่เอี่ยม กรุงเทพ

หลวงปู่ทับเริ่มสร้างพระปิดตาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2442 – 2453 มีด้วยกันหลายเนื้อ แต่ที่นิยมสุดและแพงสุดคือเนื้อสำริดเงิน พระปิดตาหลวงพ่อทับมีลักษณะเป็นพระแบบลอยองค์ นั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์ที่ล้วงไปปิดทวารจะล้วงลงทางด้านในไม่ผ่านพระชงฆ์ (หน้าแข้ง) เรียกกันว่า “โยงก้นด้านใน” พระปิดตาของหลวงพ่อทับแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มพิมพ์รูปแบบศิลป คือ พิมพ์นั่งบัว พิมพ์บายศรี พิมพ์ตุ๊กตา และ พิมพ์ยันต์ยุ่ง หากมีอักขระขอมปรากฏตรงพระเพลาหรือพระชงฆ์(บริเวณหน้าขาหน้าแข้ง) ก็จะเรียกว่า “พิมพ์ยันต์น่อง”